ทาสีบ้านสีไหนดี

ทาสีบ้านสีไหนดี

ทาสีบ้านสีไหนดี เอาให้สีสวย ให้เสริมโชค

ทาสีบ้านสีไหนดี

ทาสีบ้านสีไหนดี วันนี้เราจะมาเปิดเฉดสีทาบ้านสวยๆ ที่ทาแล้วโชคดีเป็นมงคล พร้อมดึงดูดพลังงานบวกเข้ามาในบ้าน ให้สมาชิกทุกคนอยู่เย็นเป็นสุข โดยอ้างอิงตามศาสตร์ฮวงจุ้ยซึ่งเป็นที่นิยมกันในหมู่คนไทยเชื้อสายจีน ที่มีความเชื่อในเรื่องของสมดุลต่างๆ ในธรรมชาติ และให้ความสำคัญกับสีสันต่างๆ รอบตัวเรา โดยหลักความสมดุลนั้นแบ่งออกเป็น 5 ธาตุ ซึ่งได้แก่ ธาตุน้ำ ธาตุไม้ ธาตุไฟ ธาตุดิน และธาตุทอง พร้อมกับความเชื่อเรื่องสีตามหลักฮวงจุ้ยมาให้ได้อ่านกันบ้านเดี่ยว

เปลี่ยนสีสันของบ้านให้มีความงดงามสดใดยิ่งขึ้นด้วยเฉดสีทาบ้าน

เลือกสีตามกิจกรรมที่ทำในห้องนั้น ๆ

แต่ละกิจกรรมจะใช้พลังงานที่แตกต่างกันออกไป ถ้าห้องทำงานก็จะต้องการพลังงานความเคลื่อนไหวสูง ส่วนห้องทำนอน ต้องการความสงบเงียบจึงต้องมีการเลือกสีให้เหมาะสม

ห้องนอน – ห้องนอนต้องการความสงบ ผ่อนคลาย ปลอดภัย กลุ่มสีที่เหมาะสม คือ กลุ่มธาตุน้ำ, ทอง, ดิน เราอาจเลือกสีได้จากทั้ง 3 กลุ่มนี้ เพียงแต่ในกลุ่มธาตุน้ำเราอาจจะยกเว้นสีดำไว้ แต่สีอื่น ๆ เช่น สีฟ้า เหลือง หรือขาวสามารถใช้ได้

ห้องทำงาน – ในห้องทำงานเราต้องการพลังงาน พลังการเคลื่อนไหว และการเติบโต เพราะฉะนั้นสีที่เหมาะสม คือ กลุ่มสีธาตุไม้ และธาตุไฟ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจจะต้องดูงานที่ทำด้วยว่าเป็นงานประเภทใด ซึ่งสำหรับงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ อาจจะเลือกสีจากกลุ่มอื่น ๆ ได้ เช่น สีแนวเอิร์ธโทน

ห้องน้ำ – ห้องน้ำถือเป็นห้องที่มีความเป็นธาตุน้ำเข้มข้น สีที่ควรใช้จึงควรเป็นสีกลุ่มที่สนับสนุนธาตุน้ำ นั่นคือธาตุน้ำด้วยกัน หรือเป็นธาตุทองก็ได้ เช่นสี ฟ้า น้ำเงิน ขาว เป็นต้น ให้หลีกเลี่ยงสีแดง

ห้องครัว – ห้องครัวเป็นห้องที่อยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ ในการทำครัวเราต้องใช้เตาไฟ เราจึงกำหนดห้องครัวให้เป็นธาตุไฟ สีที่สามารถใช้ได้ คือ สีในกลุ่มธาตุไฟ และไม้ เช่น สีแดง เขียว หรือแม้แต่สีขาวก็ไม่ผิดอะไร

ทำความรู้จักคุณสมบัติของสีทาบ้าน ก่อนตัดสินใจซื้อ

เพราะสีทาบ้านที่ดีจะอยู่คู่บ้านไปได้นานเป็นสิบ ๆ ปี การเลือกสีทาบ้านจึงต้องทำความเข้าใจถึงความเหมาะสมและประเภทการใช้งาน เช่น สีทาภายใน ใช้สำหรับทาสีภายในตัวบ้านหรือตัวอาคาร สีทาภายนอก ใช้สำหรับทาสีภายนอกอาคาร หรือแบ่งตามวัสดุใช้งาน เช่น สีทาเหล็ก สีทาไม้ สีทาหลังคา สีกันสนิม หากเลือกใช้งานผิดประเภทก็จะกลายเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก

  • ความสว่างของพื้นที่ใช้งาน

สีทาบ้านส่งผลต่อบ้านทั้งภายนอกและภายใน รวมไปถึงประเภทของห้องต่าง ๆ ที่ต้องการใช้งาน การเลือกโทนสีจึงมีความจำเป็น เช่น ห้องนอนที่ต้องการความนุ่มนวลสบายตา เหมาะสำหรับการพักผ่อน ควรเลือกใช้สีโทนอ่อน เพราะนอกจากจะทำให้ห้องสว่างยังสะท้อนแสงได้ดี ทำให้ห้องไม่สะสมความร้อน หรือหากห้องที่มีหน้าต่างรับแสงมาก อาจจะเลือกใช้สีโทนเข้ม เพื่อลดปริมาณของแสงในห้อง ไม่ให้สว่างจ้ามากเกินไป

  • อายุการใช้งาน

คุณสมบัติของสีแต่ละยี่ห้อ อาจมีให้เลือกไม่ต่างกันมากนัก แต่อายุการใช้งานของสีแต่ละประเภท มีระบุไว้ข้างถังและกระป๋องสีอยู่ด้วย อายุการใช้งานของสีมีตั้งแต่ 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี ซึ่งอายุการใช้งานจะใช้ได้นานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยราคาที่แตกต่างกันด้วย

  • คุณภาพของสี

แต่ละยี่ห้อจะแบ่งย่อยออกไปอีกว่า ขั้นตอนและกรรมวิธีการผลิตเป็นอย่างไร ส่วนผสมของสีทำมาจากอะไรบ้าง แน่นอนว่าคุณภาพที่ดี ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย คุณภาพหรือเกรดของสีตัดสินใจได้ไม่ยาก เพราะมักจะมีระบุไว้ข้างถังสีอยู่แล้ว แบ่งเป็น Premium Grade, High Quality Grade, Medium Grade และ Standard แน่นอนว่าคุณภาพของสี เช่น ยึดเกาะได้แน่น ทนทานต่อรอยขีดข่วน ทนแดดทนฝน ก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย

  • ปริมาณของสี

เรื่องที่สำคัญที่มักถูกมองข้ามไปคือ การเลือกใช้ปริมาณของสีให้เหมาะสมลงตัวกับขนาดของพื้นที่ โดยทั่วไปสีถังใหญ่จะถูกกว่าสีถังเล็ก หรือแบบกระป๋อง หากคำนวณแล้วว่าใช้พื้นที่มาก สีถังใหญ่ก็จะช่วยประหยัดงบประมาณมากกว่าการใช้สีถังเล็กหลาย ๆ ถังรวมกัน ความหนาแน่น และประเภทการยึดเกาะของสีก็เป็นเรื่องสำคัญ ในสีขนาดเท่ากัน อาจจะใช้ปริมาณต่อพื้นที่ได้ไม่เท่ากัน      

  • คุณสมบัติพิเศษ

ยังมีสีที่แบ่งตามคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปอีกด้วย เช่น ป้องกันเชื้อรา คราบตะไคร่น้ำ ป้องกันรังสียูวี สีแบบที่เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย หรือสีแบบปราศจากส่วนผสมของสารปรอท รวมถึงแบ่งตามระดับของความเงางามและการสะท้อนแสง (Sheen) ที่แบ่งระดับการสะท้อนแสงออกเป็น Gloss, Semi-Gloss, Satin และ Flat หากชอบแบบสีด้านที่มีการสะท้อนแสงน้อยที่สุดก็ให้เลือก Flat

1. สีขาว

เป็นโทนสีที่ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง สบายตา และช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์  ซึ่งเหมาะสำหรับห้องเด็ก โดยทิศที่ทาโทนสีขาวแล้วดี คือบ้านที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และส่วนหน้าบ้านที่หันหน้าทางทิศเหนือ เพราะจะช่วยเพิ่มความสว่างไสวให้ภายในบ้านได้มากยิ่งขึ้น

2. สีน้ำตาล

เป็นโทนสีที่ช่วยเสริมในเรื่องของสุขภาพ ร่างกายให้แข็งแรง และความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ให้มีความรักใคร่ สามัคคี  โดยส่วนที่เหมาะกับการทาโทนสีน้ำตาลนี้คือ ส่วนที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกและทิศใต้ ค่ะ

3. สีเทาอมน้ำตาลหรือสีเทาหม่น

เป็นโทนสีที่ช่วยเสริมในเรื่องความมั่นคง มีความราบรื่น และความสัมพันธ์ภายในครอบครัวที่ดี โดยส่วนที่เหมาะกับการทาโทนสีเทาอมน้ำตาลหรือสีเทาหม่น คือส่วนที่หันหน้าไปทางทิศเหนือและทิศใต้

แต่ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงโทนสีน้ำตาล อย่างโทนสีที่ใกล้เคียงกับใบไม้ เพราะจะส่งผลเสียในเรื่องของความรักและความยากลำบากค่ะ

4. สีฟ้า/สีม่วง

เป็นโทนสีที่ช่วยเสริมในเรื่องหน้าที่การงาน การได้รับโอกาสที่ดี ความมั่นคง รวมไปถึงความร่ำรวย โดยทิศที่เหมาะกับการทาโทนสีฟ้า สีม่วง คือ ทิศเหนือ ทิศตะวันออก และส่วนหน้าบ้านที่หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

5. สีแดง/สีชมพู

เป็นโทนสีที่ช่วยเสริมในเรื่องของความรัก มีสัมพันธภาพที่ดี การได้รับการยอบรับจากคนรอบข้าง และความมั่นคงในสถานะทางสังคม โดยทิศที่เหมาะกับการทาโทนสีแดง สีชมพู คือ ทิศใต้ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันออกเฉียงใต้ค่ะ