สไตล์การแต่งบ้านยุค 80 แฟชั่นสไตล์เก่า ที่ดูไม่แก่
บ้านยุค 80 การแต่งบ้านสไตล์โบราณ (Antique)
บ้านยุค 80 การแต่งบ้านแนวโบราณจะเน้นตกแต่งด้วยไม้ อิฐ โดยอาจจะเป็นไม้เก่า ทั้งโครงสร้างบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ ส่วนการออกแบบก็จะเน้นลูกเล่นแบบสมัยเก่า ตัวอย่างเช่น บ้านโบราณไทยสไตล์ จะใช้ประตูไม้บ้านพับ ที่ต้องลงสลักกลอนไม้ แทนลูกบิด หรือหน้าต่างเป็นบานไม้ล้วน บานไม้ติดกระจก ที่ต้องลงกลอนสลัก ฯลฯ
การแต่งบ้านแนววินเทจ (VINTAGE)
แนววินเทจ เป็นแฟชั่นสไตล์เก่า ที่ดูไม่แก่ โดยการตกแต่ง จะเน้นโทนสีขาว ครีม น้ำตาล ไม่เน้นสีที่ฉูดฉาด เป็นแนวการแต่งบ้านที่มีความคลาสสิกซ่อนอยู่ ในรายละเอียดต่างๆ ตัวอย่างเช่น พื้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ของแต่งบ้าน ที่อาจเป็นของมือสอง ของโบราณที่ดูล้ำค่าน่าสะสม
การแต่งบ้านแนวเรโทร (RETRO)
คำว่าเรโทร ในภาษาละติน มีความหมายว่า ย้อนกลับไป การแต่งบ้านสไตล์เรโทร ก็เลยเหมือนการเอาแฟชั่น ในยุคเก่าๆ มารวมไว้ แล้วทำให้กลับมา กับยุคสมัยปัจจุบัน ด้วยเหตุผลดังกล่าว สไตล์การตกแต่งแบบเรโทร ก็เลยมีความฉูดฉาด มีสีสันที่หลากหลาย ช่วยให้มีบรรยากาศ ที่สนุกสนาน ดูรื่นเริง
วิธีแต่งบ้านให้มีกลิ่นอายย้อนยุค 80
1. เน้นสีธรรมชาติ ต้องการให้บ้านดูคลาสสิกก็ลองกลับไปสู่ความเบสิกด้วยโทนสีธรรมชาติ ได้แก่ สีน้ำตาล สีเขียว สีไม้ สีครีม สีเอิร์ธโทน อย่างนี้จะช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่น อ่อนโยน ดูเป็นโซนที่น่าพักผ่อนจริงๆแต่ว่าทั้งนี้การแต่งบ้านให้ดูสวยน่าอยู่ก็จำเป็นต้องคำนึงถึงความเหมาะสมด้วย โดยอาจจะใช้สีธรรมชาติกับห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน แต่ส่วนห้องน้ำที่ต้องการให้ดูสะอาดสะอ้าน ก็อาจไปเน้นสีขาวในการตกแต่ง แล้วใช้สีเขียว สีน้ำตาล เสริมเข้าไป
2. รียูสของเก่า การรีโนเวทเฟอร์นิเจอร์เก่าให้กลับมาอยู่ในสภาพสวยและก็พร้อมใช้ ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียแต่งบ้านแบบวินเทจที่น่าดึงดูด เพราะเหตุว่าวัสดุที่ใช้เพื่อทำเฟอร์นิเจอร์สมัยก่อนออกจะคงทน มีการออกแบบที่ดูสวยคลาสสิก หรือหากสามารถใช้ตู้ เตียง ชั้นวางของชิ้นเดิมที่มีอยู่แล้วได้ ก็จะช่วยประหยัดค่าตกแต่งได้อีกด้วย
3. เติมความย้อนยุคด้วยผ้า เฟอร์นิเจอร์ผ้าต่างๆตัวอย่างเช่น โซฟาบุผ้า เก้าอี้นวม พรม หรือแม้แต่ผ้าม่านที่ทำมาจากผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ก็ช่วยเสริมความวินเทจให้บ้านได้ ยิ่งถ้าใช้โทนสีธรรมชาติอย่างสีน้ำตาล สีเทา สีครีม ก็จะทำให้บ้านดูอบอุ่นน่าอยู่เพิ่มมากขึ้น
4. ใช้เครื่องครัววินเทจ ปัจจุบันนี้มีเครื่องครัวสไตล์วินเทจวางขายอยู่มากมาย ไม่ว่าจะถ้วย จาน ถ้วยชาม หม้อ กระทะ ถ้วยน้ำ กาน้ำชา ตะเกียบ ช้อน ส้อม เราสามารถเลือกดีไซน์ย้อนยุคได้ตามใจชอบเลย และหากตกแต่งห้องครัวด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ หน้าต่าง ประตู ที่เป็นดีไซน์ย้อนยุคด้วย ก็จะยิ่งทำให้มีบรรยากาศของยุคเก่าๆได้ดีเลยทีเดียว
5. มิกซ์ของแต่งบ้านให้แมตช์กับสไตล์ที่ต้องการ แน่ๆว่าของแต่งบ้านตามห้างร้านต่างๆมักจะละลานตาไปหมด และส่วนใหญ่อาจเป็นแนวโมเดิร์น ซึ่งถ้าใจรักความวินเทจจริงๆก็จำเป็นต้องเฟ้นหาของแต่งบ้านแนวนี้กันนิดนึง หรือหากเจอบางชิ้นที่มีความทันสมัย แต่ไปแมตช์กับสไตล์ของบ้านได้อย่างไม่ฉีกแนวเท่าไร โทนได้ ดีไซน์ได้ จะลองเลือกมาแต่งบ้านก็ไม่ถือว่าผิด
6. รักษาความเบสิกเอาไว้ ลองย้อนนึกไปถึงสไตล์การแต่งบ้านในสมัยก่อน ที่ไม่ค่อยเน้นของแต่งบ้านกระจุกกระจิกเยอะชิ้น แต่จะเลือกใช้ของแต่งบ้านที่มีประโยชน์และใช้ได้จริง ฉะนั้นถ้าจะตกแต่งแนวนี้ ก็อย่าลืมความเบสิก ความมินิมอลในยุคก่อนๆด้วย เพราะถ้าตกแต่งเยอะจนเกินจำเป็นก็อาจมองรกตามากกว่าจะสวยงาม
7. คุมความย้อนยุคในทุก ๆ ห้อง ควรตกแต่งทุกห้อง ทุกจุดให้เป็นสไตล์เดียวกัน ทั้งหมด ถ้าจะวินเทจ ก็จำต้องคุมความวินเทจไปถึงห้องน้ำ ห้องครัว รวมถึงประตูหน้าบ้าน เพื่อไม่ให้สไตล์การตกแต่ง โครงการบ้านภูเก็ต แต่ละห้องไปคนละทาง
ขยายความอบอุ่น
นอกจากความอบอุ่น ของพื้นที่บ้านพัก ของครอบครัวเจ้าของบ้านแล้ว บ้านโนบิตะยังเป็นบ้านที่มีบ้านพัก คนงานอยู่ส่วนด้านหลังที่ถูกเชื่อมต่อโดยสะพานทางเชื่อม เพื่อง่ายต่อการใช้งานและก็กระชับความอบอุ่นของผู้อาศัยทั้งสอง ทั้งยังได้รับการเพิ่มเติมแต่งให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เกิดเป็นหลักที่ใช้สอยที่มาก แล้วก็รองรับการใช้แรงงาน ได้อย่างหลากหลายจาก 100 ตารางเมตรเป็น 300 ตารางเมตร อย่างยิ่งจริงๆ บ้าน
คราวหลังได้ขยายความอบอุ่น ให้ไปถึงหน้าบ้านพักคนงานด้านหลังแล้ว ผู้ออกแบบยังได้เสริมความสวย ให้กับบ้านด้านหลังนี้ด้วยการปกปิดสายตาด้วยที่กรองเหล็กสีขาว เพื่อคนงานรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้นเรื่อยๆระหว่างการทำงาน ลัดจากข้างหลังบ้านอ้อมมาข้างบ้านกันสักนิด
จะพบกับสวนญี่ปุ่นที่สามารถมอง ออกมาจากห้องโถงนั่งพักผ่อนได้ ในระหว่างวัน ซึ่งสวนญี่ปุ่นที่ว่านี้กลับไม่ใช่สวนญี่ปุ่น จริงๆแต่เป็นสวนลูกผสมที่มีอิสรภาพย เพราะว่าผู้ออกแบบต้องการผสมผสาน อิสรภาพยแล้วหลังจากนั้นก็สร้างบรรยากาศไทยๆให้กับบ้านด้านหลังนี้เข้าไปด้วย พรรณไม้ต่างๆ
ที่เอามาปลูกก็เลยเป็นพรรณไม้ไทย ปะปนอยู่อย่างกลมกลืน ดังเช่นว่า ต้นขนุน ต้นไผ่ หนวดปลาดุกเล็กแกร็น ที่ง่ายต่อการดูแล ทั้งมีส่วนระเบียงให้สามารถออกมานั่งพักผ่อน พักผ่อนหย่อนใจได้ตลอดทั้งวั
โดยรวมความยากของบ้านโนบิตะประเทศไทยด้านหลังนี้นอกจากจะต้องจำเป็นที่จะต้องเสริมความแข็งแรงให้บ้านไม้อายุ 80 ปีกลับมาใช้งานได้ดีอีกครั้งแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องประสานเรื่องราวในวันเก่าให้พอดิบพอดีกับตอน พูลวิลล่าภูเก็ต
ไปจวบจนกระทั่งสไตล์ที่มีความมากมายหลากหลายน่าสนใจ จนกระทั่งเกิดเป็นเอกลักษณ์ที่น่าจำในชื่อของ “บ้านโนบิตะ” ที่ไม่ต้องใช้ Time machine ย้อนเวลาของโดราเอม่อน ขายวิลล่าจังหวัดภูเก็ต แม้ว่าเพียงแต่หวนค่าของบ้านด้านหลังเก่าแล้วหลังจากนั้นก็ทำรีโนเวท อย่างประดิษฐ์ เพื่อย้อนวัยให้บ้านด้านหลังนี้สามารถใช้งานไปได้อย่างคุ้ม อีกหลายสิบปีเลยก็ว่าได้